cover

EP2. บันทึกความทรงจำ: อุทยานทุ่งแสลงหลวง

ก่อนที่ความจะลบเลือนและจางหายไปซะก่อน มาเล่าเรื่องต่อจากตอนที่แล้วกันดีกว่า ความเดิมตอนที่แล้ว… หลังจากเราได้เริ่มออกปั่นวันแรกและจบลงที่การนอนในโรงแรมม่านรูดแถวๆอำเภอพรมพิราม ด้วยความเหนื่อยและมอมแมมก็รีบอาบน้ำและนอนหลับไปอย่างสงบ ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ ตี 5.30 รีบเก็บข้าวของแพ็คจักรยานเหมือนเดิมเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อไป คือผมเป็นคนขี้หลงขี้ลืมมากอะนะชอบทำอะไรพลาดโง่ๆ ลืมนั่นนี่ตลอดเวลา ผมเลยต้องเช็คของดูให้ละเอียดว่าลืมอะไรบ้างมั๊ย ปั่นออกจากห้องไปละก็วนกลับมานั่งคิดอีกว่าลืมอะไรรึปล่าว เช็คหลายรอบจนมั่นใจว่าไม่ลืมแน่นอน ก็ปั่นออกโรงแรมไปพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น อากาศเย็นสบาย และความชื้นในอากาศมากพอสมควร เพราะเมื่อคืนฝนตกอีกแล้ว จุดหมายของวันนี้ (อุทยานทุ่งแสลงหลวง) วันก่อนผมก็ค่อนข้างพลาดและประมาณตัวเองสูงเกินไปหน่อย วันนี้เลยต้องวางแผนให้ดีหน่อย โดยจุดมุ่งหมายของวันนี้ก็คือ อุทยานทุ่งแสลงหลวง เดียวใส่รูปให้ดูนะว่าอยู่ที่ไหน ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ตอนเช้าอากาศเย็นไม่ได้มีอะไรพิเศษพอปั่นมาใกล้ๆเที่ยงเริ่มร้อน ร้อนนน ร้อนนนนนนนน แล้วคือไม่มีผ้าบัฟกับปลอกแขนด้วยตอนแรก ก็คือไหม้กันวันนี้แหละ เพียงเวลาไม่นานผมก็เริ่มเปลี่ยนสี แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ดำไม่มีทางรอดอยู่แล้ว แต่กลัวมะเร็งซะมากกว่า พอถึงเวลาประมาณบ่ายๆ ก็คงถึงเวลาที่จะต้องพักแวะกินข้าวเพราะยังต้องปั่นอีกไกล แถมวันนี้ความพิเศษคือต้องปีนเขา ระยะปีนประมาณ 800m (ดูจาก strava) และนี่ก็คือร้านที่ผมเลือก ผมร้านนี้เพราะพื้นที่กว้าง ร่มรื่นดี เพราะผมจะต้องขอนั่งพักที่นี่กินข้าว กินน้ำซักชั่วโมง กินข้าวไปสองจาน แล้วก็นอนงีบไป 30 นาที หลังจากพักพอแล้วผมก็ถอนหายใจหนึ่งที แล้วก็ไปต่อด้วยจิตใจแจ่มใส! เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นคือวันนี้จะได้ปีนเขาด้วย มันจะน่าสนุกตรงไหนหละ […]

Updated On January 10, 2024 by Adisak Chaiyakul

ก่อนที่ความจะลบเลือนและจางหายไปซะก่อน มาเล่าเรื่องต่อจากตอนที่แล้วกันดีกว่า

ความเดิมตอนที่แล้ว…

หลังจากเราได้เริ่มออกปั่นวันแรกและจบลงที่การนอนในโรงแรมม่านรูดแถวๆอำเภอพรมพิราม ด้วยความเหนื่อยและมอมแมมก็รีบอาบน้ำและนอนหลับไปอย่างสงบ ตื่นมาอีกทีก็ประมาณ ตี 5.30 รีบเก็บข้าวของแพ็คจักรยานเหมือนเดิมเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อไป คือผมเป็นคนขี้หลงขี้ลืมมากอะนะชอบทำอะไรพลาดโง่ๆ ลืมนั่นนี่ตลอดเวลา ผมเลยต้องเช็คของดูให้ละเอียดว่าลืมอะไรบ้างมั๊ย ปั่นออกจากห้องไปละก็วนกลับมานั่งคิดอีกว่าลืมอะไรรึปล่าว เช็คหลายรอบจนมั่นใจว่าไม่ลืมแน่นอน ก็ปั่นออกโรงแรมไปพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่กำลังขึ้น อากาศเย็นสบาย และความชื้นในอากาศมากพอสมควร เพราะเมื่อคืนฝนตกอีกแล้ว

จุดหมายของวันนี้ (อุทยานทุ่งแสลงหลวง)

วันก่อนผมก็ค่อนข้างพลาดและประมาณตัวเองสูงเกินไปหน่อย วันนี้เลยต้องวางแผนให้ดีหน่อย โดยจุดมุ่งหมายของวันนี้ก็คือ อุทยานทุ่งแสลงหลวง เดียวใส่รูปให้ดูนะว่าอยู่ที่ไหน

ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ตอนเช้าอากาศเย็นไม่ได้มีอะไรพิเศษพอปั่นมาใกล้ๆเที่ยงเริ่มร้อน ร้อนนน ร้อนนนนนนนน แล้วคือไม่มีผ้าบัฟกับปลอกแขนด้วยตอนแรก ก็คือไหม้กันวันนี้แหละ เพียงเวลาไม่นานผมก็เริ่มเปลี่ยนสี แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ดำไม่มีทางรอดอยู่แล้ว แต่กลัวมะเร็งซะมากกว่า

พอถึงเวลาประมาณบ่ายๆ ก็คงถึงเวลาที่จะต้องพักแวะกินข้าวเพราะยังต้องปั่นอีกไกล แถมวันนี้ความพิเศษคือต้องปีนเขา ระยะปีนประมาณ 800m (ดูจาก strava) และนี่ก็คือร้านที่ผมเลือก

ผมร้านนี้เพราะพื้นที่กว้าง ร่มรื่นดี เพราะผมจะต้องขอนั่งพักที่นี่กินข้าว กินน้ำซักชั่วโมง กินข้าวไปสองจาน แล้วก็นอนงีบไป 30 นาที

หลังจากพักพอแล้วผมก็ถอนหายใจหนึ่งที แล้วก็ไปต่อด้วยจิตใจแจ่มใส! เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นคือวันนี้จะได้ปีนเขาด้วย มันจะน่าสนุกตรงไหนหละ เพราะปีนเขาก็ต้องเหนื่อยกว่าปั่นทางเรียบนิ ช่ายยยแต่ผมจะได้เห็นธรรมชาติจริงๆซักที วันแรกที่ผมปั่นมาเห็นแต่วิวเมืองและชนบททั่วไป แทบจะไม่ต่างจากที่บ้านผมมาก

ผมจะหยุดพักทุกๆประมาณ 2 ชั่วโมง ปั่นเรื่อยๆไม่รีบร้อนมาก ความเร็วประมาณ 20km/hr แต่ถ้าขึ้นเนินความเร็วก็ลดลงมาตามลำดับ จากรูปด้านบนจะเห็นว่าเราเริ่มที่จะเข้าเขตของอุทยานแล้ว ทางก็จะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ

ความร้อนและความชันเล่นผมซะเหนื่อยอยู่พอสมควร ระหว่างทางช่วงนี้ผมจำได้เลยว่าฟัง นิ้วกลม podcast จบไปหลายคลิปเลย ถึงจะปั่นคนเดียวแต่การฟัง podcast ก็ทำให้รู้สึกไม่เหงามากจนเกินไปได้บ้าง พอเริ่มปีนธรรมชาติก็เริ่มวิ่งมากระทบหน้าอย่างจัง อากาศเย็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อากาศก็รู้สึกสดชื่นมากๆ ผมพยายามแวะร้านค้าเล็กๆซื้อขนมน้ำเติมตลอด มันคงไม่ค่อยสนุกถ้าน้ำเราหมดกลางทาง เสียดายที่ผมถ่ายรูปมาไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะรูปต่อไปก็วาปไปที่อุทยานซะแล้ว

ผมถึงอุทยานเวลาประมาณ 6 โมง ทันก่อนมืดพอดี คือถ้ามืดแล้วผมอยู่กลางเขาก็คือสนุกแน่ แต่วันนี้ถือว่าเป็นไปตามแผน!!!

ผมรีบเข้าไปติดต่ออุทยานเพื่อขออนุญาติกางเต้น เจ้าหน้าที่ขอบัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียน พร้อมค่าเข้าพักพร้อมกางเต้น 70 บาท แต่ผมหาบัตรประชาชนไม่เจอ ไม่เป็นไรลองหาดูอีกที ผมเริ่มเทของทั้งกระเป๋าลงกลางศาลาแต่ก็ยังหาไม่เจอ เจ้าหน้าที่เลยบอกว่าไม่เป็นไร ปัญหาคือต่อจากนี้จนจบทริปผมจะเป็นคนเถื่อนที่ไม่มีบัตรประชาชนหรอ เอาอีกแล้วลืมอีกแล้ว ผมทำใจและคิดว่าคงไม่เป็นไร

ผมต้องปั่นลงไปจากสำนักงานอุทยานเพื่อลงไปลานกางเต้นประมาณ 3 กม สิ่งที่คิดคือตอนเช้าสนุกแน่ลงซะเยอะเลยขากลับต้องปั่นขึ้นอีก ผมปั่นหลงเล็กน้อยเสียเวลาไปอีก ฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ

ผมลืมเล่าไปว่าช่วงที่ผมไปปั่นมันเป็นหน้าฝน และโซนพิษณุโลก เพรชบูรณ์ มีน้ำท่วมนิดหน่อย ทำให้ลานกางเต้นท์โดนน้ำท่วมผมเลยไปกางเต้นท์ที่ลานกางเต้นท์ไม่ได้ เจ้าหน้าที่เลยบอกให้กางเต้นท์ที่ศาลาได้เลย

และนี่เป็นคืนแรกที่ผมได้กางเต้นท์สมใจซะที สภาพก็เป็นไปตามภาพ ถ้าเห็นจากภาพลิปๆ จะเห็นน้ำสีน้ำตาลๆ แต่ผมคิดว่าคงไม่โชคร้ายเจอน้ำป่าอะไรหรอก แถมดีด้วยซ้ำได้กางเต้นท์ในศาลาเพราะเราจะไม่เปียกแน่นอน

พอกางเต้นท์เสร็จผมก็รีบไปอาบน้ำแล้วก็เปิดคอมมานั่งทำงานแก้เหงา แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าผมมีน้ำแค่ครึ่งขวดเล็กเท่านั้น นั่นแหละครับโอ็ตก็เป็นแบบนี้แหละ

และวันนี้ก็จบไปอีกหนึ่งวัน แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้านะครับ บายยยย

cover

Craft by

Adisak Chaiyakul

Developer ที่ชอบปั่นจักรยาน รักในเสียงดนตรี และการท่องเที่ยวธรรมชาติ มีความพยายามที่จะหา solution สำหรับ SME และคนตัวเล็กที่จะเอาชนะความเหลื่อมล้ำทางโอกาศด้วยเทคโนโลยี สนใจและเสพเนื้อหาแทบทุกเรื่องแต่สื่อสารไม่ได้เก่ง แต่กำลังพัฒนาตัวเองอยู่นะ

profile pictureLet's work
together

Avaliable for new project on 15 jan 2024.

Help me get to know you.


My Message

Hello, dear customers and friends! Welcome to my website, a testing ground for the latest technologies I've mastered, ensuring they're perfected before implementation. My commitment is to deliver the best in Ecommerce, Headless CMS, Design, Motion Design, SEO, and Payment Solutions. Together, let's explore the forefront of digital innovation!


facebook iconfacebook iconfacebook iconfacebook icon

Copyright 2023. Designed and built by Adisak Chaiyakul with Wordpress + Next.js (HEADLESS CMS)